เทคโนโลยีตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์

เทคโนโลยีตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์

(MEDICAL DIAGNOSIS TECHNOLOGY)

มีความสำคัญอย่างไร

          เทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ทราบว่าเรามีปัญหาสุขภาพอยู่หรือไม่ จากสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่ส่งผลต่อสุขภาพ ทั้งโรคระบาด มลพิษทางอากาศ ฝุ่น PM 2.5 ความเครียดสะสม การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม และการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น กลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) โรคอ้วน (Obesity) รวมไปถึงโรคมะเร็ง (Cancer disease) การใส่ใจดูแลและตรวจเช็คสุขภาพอยู่เสมอจะช่วยลดโอกาสการเกิดโรค และช่วยให้ประเมินร่างกายได้ หากพบความผิดปกติที่อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายในอนาคต ก็จะสามารถปรับปรุงแก้ไข หรือรักษาได้ทันท่วงที

บริการการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์

          วินเซลล์ รีเซิร์ช ให้บริการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ โดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน มีผลงานวิจัยตีพิมพ์เผยแพร่สนับสนุน และมีฐานข้อมูลประกอบ เพื่อผลลัพธ์ที่สามารถประเมินหรือคาดการณ์ภาวะสุขภาพที่เป็นอยู่ได้

โดยให้บริการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ใน 3 หมวดหลัก คือ

1. การตรวจวิเคราะห์เซลล์ภูมิคุ้มกัน (Immune cells)

ให้บริการตรวจจำนวนเซลล์เพชฌฆาต (NK cell count) ประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์เพชฌฆาต (NK cell activity) ตรวจจำนวน T cells กลุ่มหลัก (CD3+/CD4+/CD8+ cell count) และ T cells ควบคุม (Regulatory T (Treg) cell count)

เป็นการตรวจกลุ่มเซลล์เพชฌฆาต (Natural killer (NK) cells) และ T cells ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมและสร้างสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อตรวจสอบว่ามีจำนวนที่เหมาะสมและทำงานเป็นปกติหรือไม่ ซึ่งจะสามารถบอกประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคต่าง ๆ และยังสามารบ่งบอกถึงความเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น โรคมะเร็ง โรคแพ้ภูมิตนเอง ฯลฯ ได้อีกด้วย

  • การตรวจประสิทธิภาพของเซลล์เพชฌฆาต
    (NK CELL ACTIVITY)

          ตรวจวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์เพชฌฆาตในการทำลายเซลล์มะเร็งด้วยวิธี Microfluorometry ซึ่งถือเป็นการตรวจวัดขีดความสามารถในการทำงานของเซลล์เพชฌฆาตโดยตรง

  • การตรวจจำนวนเซลล์เพชฌฆาต
    (NK CELL COUNT)

          ตรวจวิเคราะห์จำนวนเซลล์เพชฌฆาตในระบบไหลเวียนด้วยวิธี Flow cytometry จำนวนเซลล์เพชฌฆาตจะบ่งชี้ถึงภาวะสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันและแสดงถึงขีดความสามารถในการกำจัดสิ่งแปลกปลอม

  • การตรวจจำนวน T cells กลุ่มหลัก
    (CD3+/CD4+/CD8+CELL COUNT)

          ตรวจวิเคราะห์จำนวน T cells ในระบบไหลเวียนด้วยวิธี Flow cytometry , T cell มีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันแบบปรับตัว (Adaptive immune system) มีหน้าที่ทำลายสิ่งแปลกปลอมอย่างจำเพาะ ผ่านกระบวนการเรียนรู้สิ่งแปลกปลอมจากการนำเสนอสารก่อภูมิต้านทาน (Antigen) โดยเซลล์ภูมิคุ้มกันอื่น ๆ

  • การตรวจจำนวน REGULATORY T CELL
    (REGULATORY T CELL COUNT)

          ตรวจวิเคราะห์จำนวน Regulatory T cell ในระบบไหลเวียนด้วยวิธี Flow cytometry ซึ่งทำหน้าที่ตรวจตราและดูแลการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ไม่ให้เซลล์ภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์ปกติ และทำงานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม จำนวน Regulatory T cell จึงมีความสำคัญต่อการบ่งชี้สภาวะสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน

2.การตรวจประเมินอายุเซลล์ (Biological age)

โดยการตรวจวิเคราะห์ความยาวเทโลเมียร์ (Telomere length) 

          อายุชีวภาพหรือ “อายุเซลล์” สามารถประเมินได้โดยการตรวจความยาวเทโลเมียร์ (Telomere length) ซึ่งทำหน้าที่ในการปกป้องรักษาสารพันธุกรรมไม่ให้เกิดความเสียหายหรือถูกทำลายระหว่างการแบ่งตัว เมื่อเซลล์แบ่งตัวแต่ละครั้งตามอายุที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เทโลเมียร์สั้นลง โดยทั่วไปความยาวเทโลเมียร์ที่สั้นลงจะสัมพันธ์กับอายุจริงที่เพิ่มขึ้น หากเทโลเมียร์สั้นลงเร็วกว่าอายุจริงอาจบ่งชี้ภาวะชราก่อนวัย และเทโลเมียร์ที่สั้นกว่าปกติจะมีโอกาสสูงที่เซลล์จะเสื่อมหรือแก่เร็วกว่าปกติ ความยาวเทโลเมียร์ยังแสดงให้เห็นพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ผ่านมาที่ส่งผลต่อสุขภาพ

3.การตรวจประเมินระดับความเสี่ยงมะเร็ง (Cancer risk assessment)

          วินเซลล์ รีเซิร์ช คิดค้นและพัฒนาการตรวจประเมินระดับความเสี่ยงมะเร็งเฉพาะบุคคล จากข้อมูลเชิงพฤติกรรมผ่านแบบสอบถามประกอบผลการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการตรวจทราบถึงระดับความเสี่ยงมะเร็งของตนเอง และหาแนวทางในการป้องกันหรือแก้ไข ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายนี้

"มะเร็ง" ภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของเรา
อย่าปล่อยให้โรคร้ายนี้เกิดขึ้นกับคุณและคนที่คุณรัก