Services

Facebook
Twitter
LinkedIn

ติดต่อสอบถาม

สเต็มเซลล์ Wincell Research Stem Cell Count

ความสำคัญของเซลล์ต้นกำเนิดในกระแสเลือด

สเต็มเซลล์ ( Stem Cell ) ในเซลล์ต้นกำเนิดผลิตที่ไขกระดูก และเคลื่อนตัวออกมาอยู่ในกระแสเลือด เพื่อไปยังอวัยวะเป้าหมายที่เสียหายและซ่อมแซม ดังนั้นระดับจำนวนของเซลล์ต้นกำเนิดในเลือดจะต้องมีมากเพียงพอ เพื่อซ่อมแซมและรักษาสมดุลการทำงานของอวัยวะต่างๆ (regeneration) เซลล์ต้นกำเนิดจะเข้าไปแบ่งตัวทดแทนเซลล์ที่เสื่อมและมีการส่งสัญญาณให้เซลล์มีการทำงานประสานกันได้สมบูรณ์ ดังนั้นผู้ที่มีระดับจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดต่ำกว่าปกติจะมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรค

Stem Cell Count

คือ การตรวจวัดระดับ Stem  cells ชนิด Hematopoietic stem cells (HSC) และ Mesenchymal stem cells (MSC) ในกระแสเลือด ด้วยเครื่อง Flow cytometry โดยอาศัย Surface marker ดังนี้ 

  • Hematopoietic stem cells (HSC) ; CD34+ / CD45+
  • Mesenchymal stem cells (MSC) ; CD105+ / CD34- / CD45-

ทำไมต้องมีการตรวจวัดจำนวนสเต็มเซลล์ในเลือด

สเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิด ทำหน้าที่คล้ายกับหน่วยกำลังสำรองของเซลล์ หากอวัยวะใดได้รับบาดเจ็บ เช่น เกิดบาดแผลจากอุบัติเหตุ ส่งผลให้ร่างกายตอบสนองการปล่อยสเต็มเซลล์จากไขกระดูกออกสู่กระแสเลือด เพื่อเคลื่อนตัวไปยังบาดแผล และสเต็มเซลล์จะแบ่งตัวเป็นเนื้อเยื่อต่างๆ ที่ทำงานอย่างจำเพาะเจาะจง เช่น สเต็มเซลล์จะแบ่งตัวเป็นเซลล์กล้ามเนื้อ ผิวหนัง และหลอดเลือดทดแทนบริเวณบาดแผลที่บาดเจ็บ

นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางโรค เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (cardiovascular disease) ที่มีการรักษาโดยการขยายหลอดเลือด อาจเป็นการรักษาเพื่อประคับประคองอาการ แต่ในความป็นจริงอาการของโรคไม่ได้หายไป 

และในงานวิจัยระบุว่า ผู้ป่วยบางรายที่มีอาการดีขึ้นเกิดจากร่างกายมีจำนวนเต็มเซลล์ในกระแสเลือดสูง และมีความสามารถแบ่งตัวเป็นเส้นเลือดใหม่ แต่กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการแย่ลง พบว่า มีสเต็มเซลล์ในกระแสเลือดน้อยกว่าปกติ ดังนั้น การตรวจวัดระดับจำนวนสเต็มเซลล์ในกระแสเลือดเป็นวิธีการตรวจเช็คร่างกายที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่งที่จะทำให้แพทย์ทำการรักษาได้อย่างตรงจุด

การตรวจนับ สเต็มเซลล์ stem cell count 1

จำนวนสเต็มเซลล์ในกระแสเลือดบ่งบอกอะไร?

นักวิจัยชี้ว่า ระดับจำนวนสเต็มเซลล์ในกระแสเลือด (circulating stem cell) มีความสำคัญต่อสุขภาพ ผู้ที่มีระดับจำนวนสเต็มเซลล์ในกระแสเลือดที่มากพอจะมีสุขภาพดี ในขณะที่ผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจพบว่าระดับจำนวนสเต็มเซลล์อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ นอกจากนี้ระดับจำนวน สเต็มเซลล์ที่ต่ำกว่าปกตินี้ยังพบว่ามีความสัมพันธ์กับโรคร้ายและลักษณะการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมาะสม อาทิเช่น

  • โรคเส้นเลือดตีบ (Stroke)
  • โรคความจำเสื่อม (Alzheimer’s Disease)
  • โรคปวดหัวแบบรุนแรง (Migraine)
  • โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Myocardial infarction)
  • โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction)
  • สุขภาพของหลอดเลือด (Vascular heart)
  • เนื้อเยื่อที่ได้รับบาดเจ็บ (Injured tissue)
  • การสูบบุหรี่ เป็นต้น
การตรวจนับ สเต็มเซลล์ stem cell count 2

ทำไมต้องมีการตรวจวัดจำนวนสเต็มเซลล์ในเลือด

สเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิดจะทำหน้าที่คล้ายกับหน่วยกำลังสำรองของเซลล์ซึ่งเมื่ออวัยวะใดได้รับบาดเจ็บเช่นเมื่อได้รับอุบัติเหตุเกิดเป็นบาดแผล ร่างกายจะมีการตอบสนองโดยการปล่อยสเต็มเซลล์จากไขกระดูกออกสู่กระแสเลือดเพื่อเคลื่อนตัวไปยังบาดแผล สเต็มเซลล์จะแบ่งตัวเป็นเป็นเนื้อเยื่อต่างๆ ที่ทำงานได้อย่างจำเพาะเจาะจง เช่น ในกรณีนี้ สเต็มเซลล์จะแบ่งตัวเป็นเซลล์กล้ามเนื้อ ผิวหนังและหลอดเลือดทดแทนบริเวณบาดแผลที่บาดเจ็บ

นอกจากนี้ในผู้ป่วยบางโรคเช่นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (cardiovascular disease) ที่มีการรักษาโดยการขยายหลอดเลือดอาจเป็นการรักษาเพื่อประคับประคองอาการแต่แท้ที่จริงแล้วอาการของโรคไม่ได้หายไปงานวิจัยหลายชิ้นได้ชี้ให้เห็นว่าผู้ป่วยบางรายที่หายดีขึ้นเกือบเป็นปกติร่างกายมีจำนวนเต็มเซลล์ในกระแสเลือดที่สูงและสามารถแบ่งตัวเป็นเส้นเลือดใหม่ได้แต่กลุ่มผู้ป่วยที่ไม่หายและอาการแย่ลงพบว่ามี สเต็มเซลล์ในกระแสเลือดน้อยกว่าปกติ และอีกหลายโรคที่ได้อธิบายไปแล้วข้างต้นเช่นกัน จำนวนสเต็มเซลล์ที่ต่ำมากจะทำให้อาการของโรคไม่หายและมีอาการเรื้อรังดังนั้นหากมีการตรวจวัดระดับจำนวนสเต็มเซลล์ในกระแสเลือดจึงอาจเป็นวิธีตรวจเช็คที่ดีวิธีหนึ่งเพื่อที่จะทำให้แพทย์ทำการรักษาได้อย่างตรงจุด